ทําประกันมะเร็ง

เงื่อนไขที่ควรรู้ก่อนทำประกันมะเร็ง

การทำประกันมะเร็ง กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีความกังวลในเรื่องของอาการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายยอดฮิตอย่างโรคมะเร็ง ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่ใคร ๆ ต่างก็รู้กันดีว่าเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของคนจำนวนมาก มีหลายคนที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวไปด้วยโรคร้ายโรคนี้ จึงเป็นเหตุผลที่คนจำนวนมากเริ่มหันมาวางแผนรองรับความเสี่ยงด้วยการทำประกันมะเร็งเอาไว้นั่นเอง

แต่คุณยังไม่ควรรับความคุ้มครองจากประกันโรคมะเร็ง หากยังไม่ได้รู้เรื่องราวเหล่านี้ ก็คือเรื่องของข้อยกเว้นและเงื่อนไขที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองนั่นเอง เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการประกันภัยหลาย ๆ เจ้า มักจะไม่ได้บอกออกมาอย่างชัดเจน แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องอ่านรายละเอียดอย่างครบถ้วนจึงจะเห็น ซึ่งบางคนก็อาจจะพลาดส่วนนี้ไป บทความนี้จึงขอนำเอาเงื่อนไขที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจทำประกันมะเร็งมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างมาอ่านกันเลย

เงื่อนไขที่ควรรู้ก่อนทำประกันมะเร็ง

โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในระยะเวลารอคอย

สำหรับการทำประกันภัยใด ๆ ก็ตาม จะมีสิ่งที่เรียกว่า ระยะเวลารอคอย อยู่ สิ่งนี้ก็คือ ระยะเวลาหลังจากเริ่มต้นรับความคุ้มครองจากประกันฯ โดยบางบริษัทฯ กำหนดไว้เป็น 60 วัน หรือ 90 วัน โดยที่หากผู้เอาประกันมีอาการหรือได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคมะเร็งภายในช่วงระยะเวลารอคอยนั้น บริษัทฯ จะไม่จ่ายเงินคุ้มครองตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ให้กับผู้เอาประกัน เพราะถือว่าไม่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เพราะฉะนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเสียประโยชน์ส่วนนี้ ควรทำเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ตอนที่ยังมีสุขภาพดี จะดีกว่า

มะเร็งผิวหนัง (ยกเว้นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา)

มะเร็งนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับอวัยวะหลาย ๆ ส่วนบนร่างกาย อย่าง โรคมะเร็งผิวหนัง เป็นอาการของมะเร็งที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ และความเสี่ยงอาจมาจากพฤติกรรมของตัวผู้ป่วยเอง เช่น การตากแดดเป็นเวลานาน ๆ การฉีดสารเคมีเข้าไปในผิว หรือการดูแลผิวอย่างไม่ถูกต้อง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ กล่าวคือ โรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นง่ายและเกิดได้จากหลายสาเหตุ บริษัทฯ จึงงดเว้นการคุ้มครองกรณีที่เจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งผิวหนัง

มะเร็งในผู้ป่วย HIV

ผู้ป่วย HIV เป็นกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันโรคที่อ่อนกว่าคนทั่วไป จึงถือว่าเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงมาก ร่างกายของคนที่มีเชื้อ HIV จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือเชื้ออื่น ๆ ที่สามารถก่อตัวเป็นโรคมะเร็งในอนาคตได้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ติดเชื้อ HIV จึงไม่สามารถทำประกันมะเร็งได้ หรือถ้าทำแล้วมาตรวจพบในภายหลังว่าเป็นผู้มีเชื้อ HIV มาก่อนการเอาประกัน ก็จะถูกยกเว้นการรับความคุ้มครอง แนะนำว่าหากคุณเป็นผู้ติดเชื้อ HIV ที่ต้องการรับความคุ้มครองดี ๆ ควรสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อหาแผนความคุ้มครองที่เหมาะสม